วันอาทิตย์ที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2554

คำถามท้ายบทที่ 11

คำถามท้ายปฏิบัติการที่ 11
1. delicious คืออะไร
ตอบ Delicious (ชื่อเดิม del.icio.us) เป็นเว็บไซต์สำหรับเก็บเว็บบุ๊คมาร์ค เชื่อมโยงกันในลักษณะเครือข่ายสังคมที่ได้รับความนิยมสูง เปิดบริการสิ้นปี พ.ศ. 2546 (ค.ศ. 2003) พัฒนาระบบโดยโจชัว สแคชเทอร์ (Joshua Schachter) บริษัท yahoo! ได้ซื้อ delicious ในวันที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2548

2. อธิบายถึงข้อดีของ delicious
ตอบ ข้อดีของ delicious คือ มีการเชื่อมโยงรายชื่อบุ๊คมาร์คเข้ากับบุ๊คมาร์คของผู้ใช้รายอื่น ซึ่งทำให้รู้ว่าเว็บไซต์นั้นมีผู้ใช้กี่คนที่ได้ทำบุ๊คมาร์คไว้ การทำงานของระบบจะสร้างจาวาสคริปต์ไว้ที่แถบบุ๊คมาร์คของผู้ใช้ และเมื่อผู้ใช้ต้องการบันทึก หรือเรียกใช้บุ๊คมาร์ค เพียงแค่กดปุ่มนั้น และบุ๊คมาร์คจะถูกเซฟอัตโนมัติเข้าสู่อินเทอร์เน็ต คุณสมบัติอื่นของ delicious คือความสามารถในการแท็กแต่ละบุ๊คมาร์คเพื่อเป็นการจัดหมวดหมู่อัตโนมัติ และความสามารถในการฟีด ส่งข้อมูลบุ๊คมาร์คล่าสุดเข้าสู่แหล่งข้อมูลอื่น เพื่อดูได้ว่าเว็บไซต์ไหนกำลังเป็นที่นิยมที่มีผู้ใช้บันทึกมากที่สุด

3. delicious มีประโยชน์ต่อตัวเอง หรือสังคมอย่างไร
ตอบ สามารถเรียกใช้ข้อมูลที่ใดก็ได้โดยไม่จำเป็นต้องเปิดเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วน ตัวเพียงอย่างเดียว ซึ่งแตกต่างจากการจัดเก็บ bookmark ธรรมดาทั่วไป และหากมีผู้ใช้ต้องการค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับ bookmark ที่สนใจ delicious มีความสามารถในการแท็กแต่ละบุ๊คมาร์ค เพื่อเป็นการจัดหมวดหมู่อัตโนมัติ และความสามารถในการฟีด ส่งข้อมูลบุ๊คมาร์คล่าสุดเข้าสู่แหล่งข้อมูลอื่น เพื่อให้ผู้ใช้รายอื่น ดูได้ว่าเว็บไซต์ไหนกำลังเป็นที่นิยมที่มีผู้ใช้บันทึกมากที่สุด

4. อธิบายถึงขั้นตอนการ add bookmarks โดยสังเขป
ตอบ  1. คลิกที่ Bookmarks และเลือก My Bookmarks
          2. ในการจัดเก็บครั้งแรกนั้น ปุ่ม Save a new bookmark จะอยู่กลางหน้าจอ และสามารถคลิกที่ด้านขวามือบนได้ ดังนั้นให้คลิกที่ Save a new bookmark และทำการกรอกข้อมูล URL ที่จะจัดเก็บ
          3. จากนั้นคลิก Next เพื่อทำงานต่อไป ระบบจะให้กรอกข้อมูลรายละเอียดของ URL โดยจะให้ใส่ข้อมูลดังนี้
          - TITLE หมายถึง ส่วนหัวเรื่องของ URL
          - NOTE หมายถึง คำอธิบายรายละเอียดของ URL
          - TAG หมายถึง ให้กำหนดชื่อ TAG
          - Mark as private หมายถึง เมื่อคลิกที่ปุ่มนี้แล้ว URL ที่จัดเก็บไว้ จะไม่ถูกนำไปเผยแพร่ให้บุคคลอื่นสามารถเรียกดู URL ชื่อนี้ได้
           4. เสร็จแล้ว คลิกที่ปุ่ม Save

5. ให้คำนิยามของคำว่า "Folksonomy"
ตอบ คือ อนุกรมวิธานที่ผู้ใช้สร้างขึ้นเอง ซึ่งใช้ในการแบ่งหมวดหมู่ และค้นคืน หน้าเว็บ รูปภาพ ตัวเชื่อมโยงเว็บ และเนื้อหาบนเว็บอื่นๆ

วันอาทิตย์ที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2554

คำถามท้ายบทที่10

คำถามท้ายบทที่10
1.บล็อกคือโปรแกรมที่ใช้สำหรับการบันทึกข้อมูลต่างๆอาจจะเป็นข้อความ รูปภาพ หรือสิ่งอื่นๆที่สามารถเก็บบนระบบเครือข่ายได้
2.บล็อกจะมีอุปกรณ์ที่ช่วยให้สร้างหน้าเว็บใหม่ได้ง่าย เช่น การใส่ข้อมูลใหม่ (โดยมีหัวข้อ,ประเภท,และเนื้อความ)ทำได้ง่ายมี template อัตโนมัติที่จะจัดการการเพิ่มบทความ
 
3.4 ส่วน คือ ข้อความ รูปภาพ ลิงค์ ไฮเปอร์เทค
4.1.เปิดโปรแกรมเว็บบราวเซอร์ โดยพิมพ์ URL http://www.blogger.com/ เพื่อเข้าไปสมัครสมาชิก
  2.จากนั้นทำการสมัครสมาชิก โดยทำการสร้างบัญชีใหม่  > ตั้งชื่อเว็บบล็อกที่ต้องการ  > เลือกแม่แบบ   เป็นอันเสร็จในการสร้างเว็บบล็อก
5.เครื่องมือสำหรับสร้างเว็บบล็อกก็มีซอฟท์แวร์  wordpress,Movable Type เป็นต้น
6.1.เปิดโปรแกรมเว็บบราวเซอร์ โดยพิมพ์ URL http://www.blogger.com/ เพื่อเข้าไปสมัครสมาชิก
  2.คลิกปุ่มสร้างบัญชีเพื่อกรอกรายละเอียดให้ครบถ้วนดังนี้
     ช่องหมายเลข 1 ที่อยู่อีเมลล์
 ช่องหมายเลข 2 พิมพ์อีเมลล์อีกครั้ง เพื่อยืนยัน
 ช่องหมายเลข 3 ป้อนรหัสผ่าน อย่างน้อย 8 ตัว
 ช่องหมายเลข 4 พิมพ์รหัสผ่านอีกครั้งเพื่อยืนยันความถูกต้อง
 ช่องหมายเลข 5 พิมพ์ชื่อที่แสดง
 ช่องหมายเลข 6 รับรองความถูกต้องของคำ ให้พิมพ์อักขระตามที่เห็น
 ช่องหมายเลข 7 ยอมรับข้อตกลง
  3.จากนั้นตั้งชื่อเว็บบล็อก/บล็อกแอดแดรส
  4.คลิกปุ่มทำต่อและเลือกแม่แบบ
 

คำถามท้ายบทที่9

1.การสร้างไดเรกทอรี ทำได้โดยการใช้เม้าส์คลิกบริเวณที่ต้องการสร้างไดเรกทอรีใหม่ โดยคลิกที่พื้นที่ด้านขวามือเมื่อต้องการสร้างไดเรกทอรีใหม่ในเครื่อง Remote Host
หรือคลิกที่พื้นที่ด้านซ้ายมือเมื่อต้องการสร้างโฟลเดอร์ใหม่ในเครื่อง Local Host จากนั้นกดปุ่ม F7 หลังจากนั้นจะปรากฎหน้าต่างสำหรับสร้างไดเรกทอรี่ / โฟลเดอร์ใหม่ ให้พิมพ์ชื่อไดเรกทอรี / โฟลเดอร์ที่ต้องการ
ในที่นี้ให้สร้างไดเรกทอรีชื่อ public_html จากนั้นกดปุ่ม OK

2.การอัพโหลดแฟ้มข้อมูลจากเครื่อง Local Host ไปยังเครื่อง Remote Host ทำได้โดยการคลิกเมาส์ปุ่มซ้ายค้างไว้ที่ชื่อแฟ้มข้อมูลที่ต้องการอัพโหลดในหน้าจอด้านซ้าย
จากนั้นลากเม้าส์ไปยังตำแหน่งปลายทางในหน้าจอด้านขวาและปล่อยปุ่มเม้าส์ หลังจากนั้นจะปรากฎหน้าต่างแสดงตำแหน่งปลายทางที่ต้องการถ่ายโอนหรือคัดลอกแฟ้ม กดปุ่ม Copy
เพื่อยืนยัน สังเกตว่าแฟ้มข้อมูลดังกล่าวจะไปอยู่ด้านขวา

3.ดับเบิ้ลคลิกที่ไดเรกทอรี่ที่โฟลเดอร์ public_html

4.คลิกที่โฟลเดอร์ที่ต้องการแล้วเลือกปุ่ม Rename เปลี่ยนเป็นชื่อ Myname

5.คลิกปุ่มเม้าส์ซ้ายค้างไว้ที่ชื่อแฟ้มข้อมูลที่ต้องการดาวน์โหลดในหน้าจอด้านขวา จากนั้นลากเมาสืไปยังตำแหน่งปลายทางในหน้าจอด้านซ้ายและปล่อยปุ่มเมาส์ในที่นี้ให้ทำการดาวน์โหลดแฟ้ม Myname
บนเครื่อง Remote Host ไปไว้ที่ไดร์ฟ C: ในเครื่อง Local Host